การปฏิวัติอุตสาหกรรม และเตรียมความพร้อมรับอนาคต Industry 5.0

อุตสาหกรรมเป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมที่สำคัญ ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลต่อการปรับตัวของสังคมในยุคต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมโลกอีกด้วย

ที่มา: https://www.researchgate.net/figure/Industrial-revolutions-from-Industry-10-to-Industry-50-adapted-from-29-27_fig1_366960759

การพัฒนาอุตสาหกรรมตามยุคสมัย

Industry 1.0 – ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน

การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคเริ่มแรกซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่อังกฤษล่าอนานิคมและได้วัตถุดิบมามากขึ้น จึงเกิดความต้องการที่จะผลิตได้มากขึ้น ทำให้มีการคิดค้นนำพลังงานไอน้ำ มาผลิตเป็นเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนและสัตว์ในอุตสาหกรรม ซึ่งยังเป็นการใช้เครื่องจักรแบบ Stand Alone และยังคงใช้แรงงานคนขนย้ายสินค้าภายในโรงงาน

Industry 2.0 – การเข้ามาของไฟฟ้าและ การผลิตจำนวนมาก (Mass Production)

ยุคของการผลิตแบบ Mass Production และการนำไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เริ่มมีการพัฒนาจากการใช้คนเคลื่อนย้ายสินค้าในโรงงานเปลี่ยนเป็นใช้สานพานในการลำเลียงชิ้นงานระหว่าง Station (Assembly Line) ส่งผลให้ Productivity เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการผลิตซ้ำในจำนวนมากๆ หรือที่เรียกว่า Mass Production ราคาสินค้ามีราคาถูกลง ทำให้คนเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมได้มากขึ้น

Industry 3.0 – ยุค IT และ Computer

เมื่อเริ่มมีการนำระบบ IT และ Computer มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนั้นมีการนำอุปกรณ์ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรและกระบวนการต่างๆ เพื่อประมวลผลและสั่งการ โดยทำหน้าที่เป็นสมองของเครื่องจักร เรียกว่า PLC (Programmable Logic Controller) เป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานแพร่หลายในสายการผลิตเพื่อควบคุมและจัดการกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ มีการนำระบบอัตโนมัติ Automation และหุ่นยนต์ Robot มาใช้ ทำให้ความผิดพลาดเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีคนมาอยู่ในกระบวนการตัดสินใจ

Industry 4.0 – Smart Factory และการเชื่อมต่อของ IoT

ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เป็นยุคโรงงานอัจฉริยะ Smart Factory การผสมผสานเทคโนโลยีทางกายภาพและดิจิทัล (Digital) หรือ Cyber-physical systems การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปในอุตสาหกรรมหรือกระบวนการที่มีการควบคุมและการเชื่อมต่อกับโลกทางกายภาพ เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติในการผลิตหรือขับเคลื่อนเครื่องจักร เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ใช้ Sensors เก็บข้อมูลของเครื่องจักรและบันทึกข้อมูลมหาศาลเพื่อนำมาวิเคราะห์เชิงลึก (Big Data and Deep Analytics) ต่อยอดไปถึงการใช้ AI (Artificial interlligence) และ Machine Learning เสนอแนะโซลูชั่น ตัดสินใจแทนคน ซึ่งจำเป็นจะต้องพัฒนาบุคคลากรคนเพื่อทำ Digital Transform ให้ราบรื่น

Industrial 5.0 – การร่วมมือกันของมนุษย์และหุ่นยนต์ โดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม

มุมมองอนาคตของภาคอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการประเมินการปฏิวัติตออุตสาหกรรมครั้งถัดไป จะเกิดขึ้นราว ปี 2025 จากประวัติการุฏิวัติอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่าระยะเวลาในการปฏิวัติเร็วขึ้น หลังจากการเข้ามาของเทคโนโลยีและปัจจัยเร่งรัดอื่นๆ เช่น วิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา
ในอนาคตอันใกล้นี้มนุษย์จะเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตอีกครั้งการผสมผสานระหว่างมนุษย์ ระบบอัจฉริยะและเทคโนโลยี (Human, AI and Robot Co-working) ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาในด้านการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร ในขั้นตอนของ Industrial 5.0 เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ อีกทั้งเรื่องของความยั่งยืนและการมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Sustainability and Social Responsibility) ก็เข้ามามีบทบาทที่สำคัญอีกด้วย เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ผ่านมาส่งผลกระทบในระยะยาวอย่างมหาศาลต่อสภาพแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเน้นพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นเนื่องจากผู้ผลิตมองหาวิธีการออกแบบกระบวนการที่มีประสิทธิภาพทางพลังงาน
กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจาก Industry 4.0 และ 5.0 คือ การให้ความสำคัญกับศักยภาพของมนุษย์ สร้างสภาพแวดล้อมที่มนุษย์และหุ่นยนต์สามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงในมุมของอุตสาหกรรมยานยนต์

เมื่อสภาพแวดล้อมในสังคมเปลี่ยน การวิวัฒน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ก็พัฒนาตามความต้องการของผู้บริโภคในตลาด การนำซอฟท์แวร์มาใช้ในการพัฒนาเครื่องยนต์ และเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างแพร่หลายและไร้รอยต่อ ทำให้เด็นโซ่คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ตามแนวคิดแบบ CASE ดังนี้

ที่มา: https://www.nikkei.com/article/DGXKZO51931240X01C19A1EA2000/

C – Connect การเชื่อมต่อ: การเข้ามาของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (5G) ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการพัฒนาการเชื่อมต่อข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการติดระบบ GPS กับรถยนต์เพื่อวิเคราะห์ และ optimize เส้นทางการเดินทางที่ประหยัดพลังงาน แบบ real-time หรือแม้กระทั่งการมอนิเตอร์ (Monitor) พฤติกรรมของคนขับเพื่อป้องกันไม่เกิดอุบัติเหตุและส่งเสริมการขับขี่แบบปลอดภัย (Drive Safety)

A – Autonomous การขับเคลื่อนอัตโนมัติ: การขับขี่แบบไร้คนขับซึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว เราสามารถเชื่อมต่อการควบคุมต่างๆในรถได้กับสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

S- Shared การใช้รถยนต์ร่วมกัน: เราเห็นบริการ car sharing เกิดขึ้นมากมาย แม้กระทั่งในประเทศไทยเองเราก็พบเห็นบริการของ ride sharing service ในชีวิตประจำวัน

E – Electric การใช้ไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์: ไฟฟ้าเข้ามามีบทบางที่สำคัญจากภาพด้านล่างจะเห็นว่าในปีหลังๆ ส่วนของ mechanism นั้นเริ่มถูกทดแทนด้วย software เป็นหลักมากขึ้น

การรับมือกับอนาคต Industry 5.0

Industrial 5.0 เน้นการพัฒนาทักษะและความสามารถของแรงงานในด้านที่เป็นเอกสิทธิ์ของมนุษย์เป็นหลัก ในด้านของสิ่งที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้อย่างด้านความคิดสร้างสรรค์และการร่วมมือกันในสังคม ซี่งเราได้สรุปทักษะที่สำคัญไว้เป็นหัวข้อหลักๆ ดังนี้

  1. การสร้างวัฒนธรรมการคิด เรียนรู้ และท้าทายสิ่งใหม่ๆ (Culture of Thinking Learning and Challenging)
  2. การลงทุนในการพัฒนาบุคลากร (Telent Development)
  3. การโอบรับความยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Sustainability and Responsibility)
  4. การให้ความสำคัญกับการสร้างพาร์ทเนอร์ (Collaboration and Partnerships)
  5. การทำงานร่วมกันของหุ่นยนต์และมนุษย์ (Cobot)
  6. ความยืดหยุ่นและปรับตัวให้ไว (Flexible and Agile)

สรุป

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภาคอุตสาหกรรมก็ควรจะเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการเรียนรู้ตลอด ทั้งชีวิต ในท้ายที่สุด การรับมือกับ Industry 5.0 เรายังคงต้องการการร่วมมือและความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบการทำงานที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง:

  • Denso Training Academy Thailand (DTAT)
  • https://www.assuredpartners.com/blogs/manufacturing/2023/the-manufacturing-evolution-from-industry-1-to-industry-5/
หมวดหมู่ : IoT

หากสนใจ IoT

LeanLabSolution (LLS) เราเป็นสื่อที่จัดทำโดย Lean Automation Business Division (LABD) บริษัท เด็นโซ่ อินโนเวทีฟ แมนูแฟคเจอริ่ง โซลูชั่น เอเชีย จำกัด เราถ่ายทอดและแบ่งปัน ทางออกของปัญหาการทำระบบอัตโนมัติภายในโรงงาน ภายใต้แนวความคิดการทำระบบอัตโนมัติแบบลีน (Lean Automation) ที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพจากการทำระบบอัตโนมัติอย่างมีประสิทธิภาพ

นักเขียน

Nareecha K.

Digital Marketing

DENSO INTERNATIONAL ASIA CO., LTD.

นักพัฒนานวัตกรรมใหม่และสื่อสารการตลาด เขียนบทความ แปลหนังสื่อ และผลิตสื่อ รักศิลปะและการเข้าสังคม งานอดิเรกคืออัพเดทนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ จากร่วมงานอีเว้นท์ที่กำลังอินเทรนด์